เราหลายคนรู้จัก Ed Sheeran จากฐานะศิลปินระดับโลกที่มากไปด้วยความสามารถ และมีผลงานเพลงโด่งดังติดหูมากมาย นอกจากนั้นเพลงของเขาฮิตจนติดชาร์ตอันดับต้น ๆมาแล้วหลายสำนัก ทั้งทางแอปพลิเคชัน Streaming ยอดฮิตอย่าง iTunes หรือ Spotify นอกเหนือจากนั้นเขายังกวาดรางวัลทั้งในเวที NME,Grammy,Billboard และเวทีอื่น ๆ มาอีกมากโข วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆนักฟังเพลง ไปคุ้ยประวัติความเป็นมาของเค้ากัน ว่ากว่าจะเป็นนาย Ed Sheeran ศิลปินที่คนทั่วโลกยอมรับคนนี้ เขาต้องผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง
เปิดประวัติ Ed Sheeran
Edward Christopher หรือชื่อในวงการที่คุ้นเคยคือ Ed Sheeran เขาเกิดวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 1991 ที่ประเทศอังกฤษ เรียนจบจากสถาับนดนตรีชื่อดังอย่าง Guildford เมื่อเริ่มก้าวเข้ามาเป็นศิลปินเต็มตัว Ed Sheeran ก็ถือได้ว่าเป็นศิลปินหนุ่มหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยเพลง The A Team จากอัลบั้มแรกอย่าง “ + ” (พลัส) ก็ได้รับรางวัล Ivor Novello Award สาขาเพลงยอดเยี่ยมด้านดนตรีและเนื้อเพลงในทันที การมอบรางวัลบในรายการนี้จะให้สำหรับนักแต่งเพลงที่แต่งเพลงฮิตมากระแทกหูผู้ฟัง ส่วนในอัลบั้มที่สอง “ X ” (มัลติพลาย) ก็ประสบความสำเร็จไม่แพ้อัลบั้มแรก แถมยังเป็นอัลบั้มที่มียอดการฟังบน Spotify บ่อยที่สุดในปี 2014 พุ่งทะยานขึ้นอันดับ1เวทีประกวดดนตรีทั่วโลก เส้นทางดนตรีของเขาหอมหวานมากๆ เนื่องจากเปิดตัวอัลบัมแรกมาก็โด่งดังกันข้ามคืนเสียแล้ว
Ed มีเพลงที่โด่งดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Shape of you, Photograph, Perfect, The a team หรือ I don’t care ft. Justin Bieber และตัว Ed ยังมีเพลงที่แต่งให้ศิลปินคนอื่นร้องอีก ได้รับความนิยมไม่แพ้กันอย่าง Little Things – One Direction, Love Yourself – Justin Bieber หรือ Everything Has Changed – Taylor Swift ด้วย
Ed หลงรักดนตรีตั้งแต่ 4 ขวบ
ตอน Ed อายุ 4 ขวบ เขามีโอกาศได้ไปร้องเพลงที่โบสถ์ ตอนนั้นเขาก็รู้ตัวทันทีเลยว่า เขาชอบเสียงดนตรีมาก แต่แม้อย่างนั้นก็ยังมีอุปสรรคตามมาด้วย Ed มีปัญหาเรื่องการพูดติดอ่าง เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการร้องเพลงอย่่างมากเลยแหละ แต่พ่อของ Ed ไม่ได้มองว่าปัญหาติดอ่างของเขาเป็นเรื่องใหญ่แต่อย่างใด พ่อออกไปซื้ออัลบั้ม The Marshall Mathers LP ของ Eminem มาให้ Ed ฟัง จากวันนั้น Ed ก็ได้แก้โรคติดอ่างของเขาด้วยการฝึกแร็ปเพลงของ Eminem นั่นเอง เยดเข้ ศิลปินจริงๆ
การตัดสินใจว่าจะเลือกเดินในเส้นทางนักดนตรี
จน Ed Sheeran อายุ 11 ปี เขาก็ได้ไปดูโชว์ของ Damien Rice นักร้องชาวไอริช ที่มีบทเพลงดังมากมาย วันนั้นเขาได้พูดคุยกับ Damien ซึ่ง Damien ได้บอกว่า จงทำตามความฝันของนายให้เต็มที่ แล้วนายจะเป็นดาวที่เจิดจ้าอีกดวงบนวงการนี้ ตั้งแต่นั้นมา Ed จึงเลือกว่าจะเลือกเดินบนเส้นทางสายดนตรีอย่างเต็มตัว ศิลปินที่สร้างแรงบรรดาลใจให้เขาไม่ได้มีเพียง Damien Rice ยังมี Eminem, The Beatles, และ Nizlopi ด้วย
จากศิลปินไร้ชื่อกลายเป็นดาวจรัสวงการ
แต่ก่อนเขาเป็นเพียงนักดนตรีโนเนม เขาได้ออกไปเล่นดนตรีเปิดหมวก โดยมีเพียงกีต้าร์ ไมค์ และ Looper Pedalหรือเครื่องบันทึกเสียง จนครั้งนึง Ed Sheeran ได้ไปเปิดหมวกที่ Los Angeles วันนั้นความสามารถของหนุ่มน้อยฝันไกลก็เข้าตา Jamie Foxx นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง ตอนนั้น Jamie มีรายการวิทยุอยู่ที่ Los Angeles ทั้ง 2 คนเริ่มรู้จักกันแต่นั้นมา แถม Jamie ก็เป็นดังรุ่นพี่ที่แสนดี เขาได้อนุญาตให้ Ed ไปอัดเพลงใน Studio ส่วนตัวของเขาอีกด้วย
จนกระทั่ง Ed Sheeran ได้จัดคอนเสิร์ตของตัวเองครั้งแรก วันนั้นมีคนดูแค่ประมาณพันกว่าคน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาให้เขาย่อท้อ เพราะความสามารถอันโดดเด่นของเขา ทำให้ Atlantic Recordsค่ายเพลงยักษ์ตัดสินใจเซ็นสัญญาให้เขามาเป็นศิลปินในสังกัด และปล่อยอัลบั้ม + (พลัส) ที่มีเพลงฮิตอย่าง Lego House, The A Team, หรือ Drunk จนเขากลายเป็นดาวค้างฟ้าอีกคนเพราะเพลงของเขาอยู่ในใจนักฟังได้ไม่ยากเลย

ไม่ง่ายเลยกว่าที่ Ed Sheeran จะประสบความสำเร็จและกลายเป็นศิลปินแนวหน้าระดับโลกอย่างทุกวันนี้ พรสวรรค์ที่เขามีเป็นเพียงส่วนเดียวที่ทำให้เขามีวันนี้ แต่หากเขาไม่พัฒนาขยันฝึกซ้อม ผลักดันตัวเองให้ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆมาได้ เขาก็คงเป็นเพียงหนุ่มน้อยคนนึงที่มัวพร่ำเพ้อกับความฝันโดยไม่ทำอะไรเลย
ที่มา https://www.afterklass.com/post/detail/5848
ภาพ – pinterest
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> สล็อตเว็บตรง